ประวัติ ของ ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม

ตะวันฉายเป็นบุตรชายของนายบุญสงฆ์ แก้วมาลา กับนางธัญชนก จำปาทอง มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน โดยเป็นบุตรคนเล็ก บิดาเป็นนักธุรกิจใหญ่ในจังหวัดชลบุรี ลงทุนร่วมกับพี่เขยและเครือญาติทำธุรกิจท่องเที่ยวในเกาะล้าน จังหวัดชลบุรี ในนาม ทัวร์วิไลสมุทร แต่เมื่อเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ส่งผลให้กิจการต่าง ๆ ได้รับผลกระทบอย่างหนักและทยอยกันปิดตัวลง รวมถึงธุรกิจของครอบครัว

ตะวันฉายเริ่มหัดมวยตั้งแต่อายุ 7–8 ปี ฝึกหัดมวยที่ค่ายเพชรรุ่งเรือง ของครูนุ วิษณุชัย เพชรรุ่งเรือง โดยมีอนันต์ศักดิ์ เปียปลื้มเป็นครูมวยคนแรก จากนั้นเริ่มชกโชว์ที่บาร์แห่งหนึ่งแถวชายหาดเมืองพัทยา ในนามจตุคาม เพชรรุ่งเรือง และเริ่มเดินสายชกมวยเด็กในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ในภาคตะวันออกรวมถึงอีสาน จนกระทั่งเข้ามาชกในสนามมวยเวทีลุมพินีเมื่อตอนอายุ 14 ปี[3] ประเดิมชกกับเพชรบานเสน สว.จ.เลี่ยงเมืองนนท์ โดยชนะด้วยคะแนนเอกฉันท์

หลังเรียนจบระดับมัธยมศึกษาชั้นที่ 3 จตุคามได้ย้ายมากรุงเทพฯ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของค่ายมวย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม และใช้ชื่อ "ตะวันฉาย" นับแต่นั้น (พระจันทร์ฉาย เป็นคนตั้งให้)

ตะวันฉายสร้างชื่อให้ตัวเองได้อย่างรวดเร็ว จนในเดือนกุมภาพันธ์ 60 เขาคว้าแชมป์ประเทศไทยรุ่น 126 ปอนด์ด้วยการเอาชนะวายุน้อย เพชรเกียรติเพชรสนามมวยเวทีลุมพินี ในปี 2561 ได้รางวัลนักมวยไทยยอดเยี่ยม สนามมวยเวทีลุมพินี[1]

4 ตุลาคม พ.ศ. 2563 มีการประกาศว่าตะวันฉายได้เซ็นสัญญากับวันแชมเปียนชิพ[4] เปิดตัวครั้งแรกด้วยการชนะน็อกคู่แข่งชาวไอริช ฌอน แคลนซี[5]

29 กันยายน พ.ศ. 2565 ได้โอกาสท้าชิงตำแหน่งแชมป์โลกวันมวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวตกับ เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี ตะวันฉายชนะคะแนนอย่างเอกฉันท์ ขึ้นแท่นแชมป์โลกคนใหม่[6]